เรื่องเล่าซูเฟล่แพนเค้ก

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน ณ งานมหกรรมอาหารที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ผมกำลังเพลินเพลินไปกับการเดินดูอาหารตามบูธต่างๆ ในบรรยากาศไฟสีส้มสลัวๆ พร้อมกับเพลงที่กำลังคลอเบาๆ เป็นพื้นหลัง สายตาของผมได้สะดุดกับจำนวนคนนับสิบๆ คนที่ยืนออต่อคิวรายล้อมที่ด้านหน้าบูธแห่งหนึ่งเข้า

ด้วยรูปลักษณ์ขนมที่ดูแปลกตา ก้อนกลม สีขาว นุ่มๆ ที่ผ่านขั้นตอนการทำอย่างพิถีพิถัน ทั้งจับเวลา ชั่งตวงและวัดอุณหภูมิ ปิดท้ายด้วยครีมสีขาวราดเป็นท็อปปิ้ง แค่เห็นก็ชวนน้ำลายไหล เพราะมันดูน่ากินมากกกก ผมไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปต่อคิวเพื่อขอลิ้มลองเจ้าขนมนี้ทันที

เจ้าขนมที่มีชื่อว่า “ซูเฟล่แพนเค้ก” (Souffle Pancake)

หลังจากที่ได้เลือกหน้าซูเฟล่แพนเค้กและชำระเงิน เรียบร้อยแล้ว

บร่ะเจ้า!!

ผมได้คิวที่ 170!! ซึ่งตอนนั้นกำลังถึงคิวที่ 127 อยู่เลย (มีคิวก่อนหน้าผมอีก 43 คิว) แน่นอนว่าผมต้องรอนานแน่ๆ

ผ่านมาประมาณ 20 นาที เลขที่ใบคิวของผมก็ถูกเรียกเพื่อไปรับเจ้าขนมชิ้นนี้ที่ได้สั่งซื้อไว้ พลางคิดในใจ มันก็ไม่ได้ช้าเกินไปนะ ไวกว่าที่คิดไว้ซะอีก

และแล้วก็ถึงเวลาที่ผมจะสัมผัสรสชาติของขนมนี้เสียที

ผมยังคงจำสัมผัสครั้งแรกนั้นได้ดี ถึงช่วงเวลาที่ผมใช้ส้อมจิ้มแทรกผ่านเนื้อครีมสีขาวละมุนลงไปบนเนื้อขนมอันบอบบาง คำแรกที่ผมได้สัมผัสคือความหอมนมอ่อนๆ ของตัวครีม พร้อมกับเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มของเนื้อครีมที่แทรกอยู่ระหว่างช่องว่างของเนื้อแพนเค้ก ทำให้เนื้อขนมนั้นแทบจะเหมือนละลายในปาก ซึ่งผมไม่ต้องเคี้ยวเลย แค่ใช้ลิ้นดันเนื้อขนมไปที่เพดานปากก็เพียงพอแล้วที่จะกลืนมันลงไป มันคือความรู้สึกที่นุ่มละมุน และเบาหวิว เบากว่าขนมทุกๆ ชนิดที่ผมเคยทานมา มันอร่อยมากๆ ครับ เผลอแป๊บเดียวเจ้าขนมบนจานผมมันก็หมดเสียแล้ว…

สุดท้าย จึงลงเอยด้วย การไปซื้อมาเพิ่มอีก 2 ชิ้น เพื่อเอาไปฝากคนที่บ้าน (..ข้ออ้างน่ะครับ :D )

ในระหว่างที่รอขนมรอบสอง ผมได้สังเกตเห็นป้ายเล็กๆ ที่วางอยู่ข้างๆ บูท โดยข้อความที่อยู่บนป้ายนั้นเขียนว่า

“ติดต่อแฟรนไชส์ โทร xxx”

ไม่รู้ว่าวันนั้นอะไรดลใจผมขึ้นมา สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวผมตอนนั้นคือ รายได้ของเจ้าของบูทจากการขายเจ้าขนมชิ้นนี้ ด้วยสมองอันทื่อๆ ของผม ผมจึงจิ้มตัวเลขลงบนมือมือ เพื่อคำนวณแบบคร่าวๆ สมมติให้ต้นทุนต่อชิ้น แบบสูงสุด ให้อยู่ที่ 60% และขนมขายอยู่ที่ชิ้นละ 89 บาท ดังนั้น จะได้กำไรที่ชิ้นละ 35 บาทเป็นอย่างต่ำ ในวันนั้นผมได้คิวที่ 170 แถม แถมตอนไปซื้ออีกรอบก็ได้คิวที่ 210 และก็ยังมีคนรอเข้าคิว รอซื้ออยู่เลย ผมเลยตีกลมๆ ให้ยอดขายอยู่ที่วันละ 250 ชิ้น

ในวันนั้นบูทนี้จะมีรายได้ 250x35 = 8,750 บาท/วัน

นี่คือรายได้ต่อวัน

แล้วถ้าเกิดเป็นรายได้ต่อเดือนล่ะ?

จากการคำนวณแบบง่ายๆ นี้ ณ ตอนนั้นในหัวผมมีเสียงตะโกนดังๆ แทรกขึ้นมาว่า “โอกาสมาแล้วๆ แถมในจังหวัดที่ฉันอยู่ก็ไม่มีซูเฟล่แพนเค้กขายอีกด้วย! มันคือโอกาสในการสร้างรายได้แบบไร้คู่แข่งอย่างแท้ทรู!

ผมได้ข้อสรุปกับตัวเองในไม่กี่วินาทีต่อมาว่า

“ฉันจะหาเงินจากการทำซูเฟล่แพนเค้ก”

แถม

“ฉันจะได้กินซูเฟล่แพนเค้กทุกๆ วันอีกด้วยนะ” ซึ่งเป็นเหตุผลสนับสนุนที่ดีมากๆ ให้กับข้อสรุปนี้ 🤣

ผมจึงไม่รอช้า รีบเข้าไปติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดและราคาทันที ซึ่งรายละเอียดที่ผมได้รับจากการสอบถามครั้งนี้คือ

“ทางร้านยินดีจะสอนพร้อมบอกสูตรและส่วนผสมให้ พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำซูเฟล่แพนเค้ก โดยราคาค่าเรียนพร้อมอุปกรณ์ อยู่ที่ 1xx,xxx บาท…”

“มันไม่ใช่แฟรนไชส์นิ เพราะแฟรนไชส์มันจะต้องมีระบบมาให้ด้วย!! อันนี้เป็นแค่การสอนทำพร้อมอุปกรณ์ให้เฉยๆ” ในหัวผมบอก

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันคือราคาค่าเรียนทำซูเฟล่แพนเค้กที่ไกลเกินจะเอื้อมถึง นี้ตะหาก!!

ใบหน้าอันสดใสอย่างมีความหวังของผมเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแบบแห้งๆ แทบจะทันทีทันใด

แต่ผมยังไม่ยอมแพ้...

ผมพยายามค้นหา วิธีทำซูเฟล่แพนเค้ก ทั้งใน Google, Youtube ก็เจอแต่แบบใส่เป็นถ้วยเซรามิค แล้วเอาไปอบ มันไม่ใช่แบบที่ผมต้องการ เมื่อผมค้นหาจนแน่ใจแล้วว่า ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับขนมแบบนี้บนอินเทอร์เน็ต ผมจึงจำเป็นต้องขอยอมแพ้ไป

โปรเจค “ฉันจะหาเงินจากการทำซูเฟล่แพนเค้ก” และ “ได้กินซูเฟล่แพนเค้กในทุกๆ วัน” จึงกลายเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับผม และจำเป็นต้องยัดเก็บไว้ลึกๆ อย่างสิ้นหวังในทันที 😞 ...

ผมปลอบใจความผิดหวังให้กับตัวเองด้วยการทานซูเฟล่ (ที่ซื้อไปฝากที่บ้าน) อีก 1 ชิ้นครึ่ง และบอกกับตัวเองว่าอย่างน้อยๆ วันนี้เราก็ได้กินของอร่อยๆ เจอโอกาสดีๆ และมีของไปฝากที่บ้านนะ

หลังจากวันนั้น...ถึงแม้ผมจะแสร้งลืม เพื่อตัดใจไปจากมัน แต่ทั้งรสชาติ เนื้อสัมผัสและความอร่อย ประกอบกับความแปลกใหม่ของตัวซูเฟล่แพนเค้กที่มาพร้อมกับโอกาสในการสร้างรายได้ (ในเขตต่างจังหวัด) แบบชนิดที่ไร้คู่แข่ง มันยังคอยวนเวียนอยู่ในหัวผมมาตลอดเวลา

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ในใจลึกๆ ของผมอยากที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้ และผมก็หลงรักเจ้าขนมชนิดนี้ ซะจนหัวปักหัวปำ เช่นเดียวกัน

นี่คือเรื่องราวเมื่อ 2 ปี ก่อน…ที่ทำให้ผมได้รู้จักขนมชนิดนี้

จุดเริ่มต้นและเรื่องราวพลิกผัน

2 ปี หลังจากนั้น...เมื่อช่วงต้นเดือน ตุลาคม ของปี 2562 เป็นช่วงเวลาที่ผมจำได้ดี

ธุรกิจแอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นรายได้หลักของผมกำลังอยู่ในช่วงขาลง และปัญหาก็คือ มันสร้างรายได้ให้ผมต่อวันได้ไม่มากนัก แม้ผมจะแก้ไขและอัดเงินลงทุนเข้าไป ไม่ว่ายังไงมันก็ยังคงทำให้ผมขาดทุนอย่างหนักจากการลงทุนในธุรกิจนี้อยู่ดี ซึ่งหากขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป โดยที่ผมไม่ทำอะไรซักอย่าง ในอีกไม่ช้าผมก็จะกลายเป็นผู้มีรายได้ 0 บาท และติดลบ แน่นอน

ผมยังอยากดูแลพ่อ แฟนของผม และคนรอบๆ ตัวผมให้ดีที่สุด เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องลำบากในการใช้ชีวิต

แต่สิ่งที่ผมรู้สึกแย่ที่สุดก็คือ ปัญหาที่ผมกำลังเผชิญหน้าอยู่นี้ ผมไม่สามารถที่จะเอ่ยปากบอกใครได้ เพราะผมไม่อยากทำให้พวกเขาไม่สบายใจ จึงได้แต่เสแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เก็บความอึดอัดนี้ไว้แต่เพียงลำพัง และผมจะเสียวสันหลังวาบทุกครั้ง เมื่อได้เห็นใบแจ้งหนี้ค่าผ่อนรถ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิตและค่าหอพักที่ต้องจ่ายทุกๆ เดือน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมจะมีปัญญาจ่ายรายการพวกนี้ไปได้ไปอีกนานแค่ไหน…

มันคือระเบิดเวลาที่ซุกอยู่ใต้พรมดีๆ นี่เอง..

ณ เวลานั้น เพื่อแก้ปัญหานี้ ผมมีทางเลือกอยู่ 2 คือ

1.สมัครงานประจำก่อนที่รายได้หลักจะหดหาย หรือ

2.สร้างธุรกิจใหม่เพื่อหารายได้เสริม

สำหรับผมในวัย 32 ที่ห่างหายจากวงการงานประจำมานานกว่า 5 ปีแล้ว ด้วยฐิฑิ ความอวดดี หรืออะไรก็แล้วแต่ ตัวเลือกข้อ 1 สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะตัดสินใจเลือก มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง สู้ยอมลำบากเลือกข้อ 2 ดีกว่า แต่ถ้าเลือกข้อ 2 ณ ตอนนั้นเหมือนมืดแปดด้าน ผมนึกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าจะทำอะไรดี เป็นความรู้สึกที่ตื่อๆ ตันๆ และโคตรแย่เลย 🙁

แต่แล้ว...เหมือนผมจะเจอแสงสว่างเล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์!!

มันคือแสงที่ผมเคยเจอเมื่อนานมาแล้ว แต่ผมลืมนึกถึงมันไป

ด้วยคลิปวีดีโอวิธีทำซูเฟล่แพนเค้กจากยูทูป ที่เพื่อนผมแชร์ขึ้นมาบนเฟสบุ๊ค ผมเห็นปุ๊บรู้เลย ว่าที่แหละ!! สิ่งที่ผมกำลังตามหาอยู่ และมันจะเป็นสิ่งที่ผมจะทำต่อจากนี้!! ผมไม่รอช้า จิ้มเข้าไปดูวีดีโอนั้นด้วยความตื่นตา ตื่นใจ แบบสุดๆ ผมได้เจอวีดีโอ บอกวิธีการทำซูเฟล่แพนเค้กอีกเพียบ หลากหลายเซฟ หลากหลายสำนักมาก

ผม...ก็ค้นพบว่า…

ช่วงเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา ได้มีคนแชร์สูตรและเผยความลับของขนมชนิดนี้ต่อสายตาชาวโลกแล้ว

แถมฟรีอีกต่ะหาก!!

มันคือแสงแห่งความหวังอย่างแท้จริง

โปรเจค “ฉันจะหาเงินจากการทำซูเฟล่แพนเค้ก” ได้ถูกรื้อขึ้นมาอีกครั้ง!!

…..

เดือนที่ 1

ผมได้ทดลองและหาข้อมูลอุปกรณ์ที่ใช้ทำซูเฟล่แพนเค้ก ที่สามารถหาได้จากในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทอดด้วยกระทะเทฟรอนจากเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือแม้แต่เตาเหล็กย่างสเต๊ก ทดสอบด้วยทุกเตาเท่าที่จะหามาได้บนต้นทุนที่แสนจะจำกัด และทดลองซูเฟล่แพนเค้กจากสูตรต่างๆ จากหลายๆ สำนัก

ช่วงเวลานั้นผมพับเก็บงานทุกอย่าง

มุ่งโฟกัสไปที่การทำขนมซูเฟล่แพนเค้กอย่างเดียว

ผมได้ศึกษาวิธีทำซูเฟล่แพนเค้ก ด้วยระบบทางไกล จากในยูทูป จากอาจารย์เซฟหลากหลายช่อง หลายประเทศมาก ไม่ว่าจะเป็น คนเกาหลี คนจีน คนญี่ปุ่น คนไทย รวมไปถึงวีดีโอ รีวิวคาเฟ่แพนเค้ก จากยูทูปเบอร์ท่านอื่นๆ

ทดลองและหาข้อมูลอุปกรณ์ที่ใช้ทำซูเฟล่แพนเค้ก ที่สามารถหาได้จากในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทอดด้วยกระทะเทฟรอนจากเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือแม้แต่เตาเหล็กย่างสเต๊ก ทดสอบด้วยทุกเตาเท่าที่จะหามาได้บนต้นทุนที่แสนจะจำกัด

ยอมรับว่าข้อมูลตอนนั้น ทั้งเยอะ ทั้งมั่วมาก น่าหงุดหงิดสุดๆ

หลายคนก็หลายสูตร หลายเทคนิค หลายอุปกรณ์ หลายวิธีทำ

แต่มีเพียงอย่างเดียวที่ผมได้เหมือนกันคือ

“ทำไมตรูทำแล้ว มันไม่ออกมาเหมือนเขาฟระ?!?”

ผมได้ลองทำ งมกับมัน มาเกือบ 2 อาทิตย์ ไข่หมดไปตั้งหลายแผง ยังไม่มีแวว ว่าจะได้ซูเฟล่แพนเค้กที่สวยๆ เลยซักนิดเดียว แค่ทำให้มันฟูๆ ก็ยังไม่ได้เลย…

นี่คือซูเฟล่แพนเค้กช่วงแรกๆ ของผม

...ดูช่างห่างไกลจากซูเฟล่แพนเค้กที่คิดไว้เหลือเกิน…

จากผลลัพธ์ที่ผมได้ ทำให้ผมรู้ว่า ผมดูถูกงานนี้เกินไป คิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ แค่ดูคลิปจากยูทูปก็ทำเป็นได้ ใครๆ ก็ทำได้

แต่ใครจะไปรู้ล่ะ! ว่าการทำซูเฟล่แพนเค้กที่ดูเหมือนจะง่ายนี้ แต่เอาเข้าจริงมันไม่ง่ายเลยซักนิด

มีแค่สูตรและส่วนผสมมันไม่จบ มันยังมีเทคนิคปลีกย่อยที่ตามมาอีกเยอะมาก!

ผลลัพธ์ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก

เดือนที่ 2

ขอห่างจากยูทูปซักพัก หันมาศึกษาความรู้พื้นฐานเบเกอรี่ มองหาสูตรและเทคนิคการทำขนมแบบต่างๆ จากในหนังสือ แต่ก็ไม่มีวิธีการทำซูเฟล่แพนเค้กในแบบที่ต้องการเลย ผลลัพธ์ที่ได้ ก็ไม่ต่างอะไรจากเดือนที่แล้วมากนัก แถมยังจะหันไปทำชีสเค้กกับโรลซะงั้นเพราะคิดว่าสูตรและขั้นตอนการทำคงจะเหมือนกับการทำซูเฟล่แพนเค้ก ดีนะที่ไม่มีเงินซื้อเตาอบ ไม่อย่างงั้นผมจะต้องได้หลุดออกทะเลไปไกลกว่านี้แน่…

ในเดือนนี้ ผมต้องขอบอกตามตรงว่า เป็นช่วงเวลาที่ผมค่อนข้างท้อมาก มองแทบไม่เห็นถึงปลายทางข้างหน้าด้วยซ้ำว่าเราจะทำมันสำเร็จได้หรือไม่...สูตรทุกสูตรก็ลองมาหมดแล้ว แต่ก็ไม่เห็นมันจะฟูเป็นก้อนๆ ด้านนอกไหม้ ด้านในก็ไม่สุก ความหวังสุดแสนจะริบหรี่

ความอวดดีทลายสิ้น ความมั่นใจว่าจะทำสำเร็จไม่มีเหลือ ในใจลึกๆ อยากจะล้มเลิก ขอยอมแพ้ยังจะง่ายกว่าซะอีก แต่เมื่อผมหันกลับมามองพวกซากวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ซื้อมาวางตั้งเป็นกองๆ ทิ้งไว้ตรงนั้นแล้ว ทำให้ผมูร้ว่าผมกลับไปไม่ได้แล้ว ผมต้องทำให้สำเร็จเท่านั้นคือทางออกเดียวสำหรับตอนนี้...🙁

ว่าแล้วผมก็ก้มหน้าตีไข่ขาวและฝึกทำซูเฟล่ฯ ต่อไป

เดือนที่ 3

เริ่มกลับมาศึกษาความรู้พื้นฐานเบเกอรี่จากในยูทูปช่องต่างๆ จนเริ่มจับจุดถึงเทคนิคการตีไข่ขาวและเทคนิคการตะล่อมได้ และทดลองใช้อัตราสูตรส่วนผสมใหม่ที่ได้ค้นพบ ในเดือนนี้ซูเฟล่ฯ ของผมจะฟูเป็นก้อนแล้วครับ ดีใจมากๆ แต่เนื้อสัมผัสน่ะหรอครับ? เหมือนเค้กดีๆ นี่เอง ยังไม่เป็นโฟมๆ และรสชาติยังไม่อร่อยเหมือนกับที่เคยทานเลยซักนิด แต่อย่างน้อยๆ ในเดือนนี้ ผมคิดว่าเริ่มมาถูกทางแล้วแหละ

เดือนที่ 4

ได้ลงมือทดสอบ ลองผิดลองถูก ในส่วนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ (ส่วนใหญ่จะเจอแต่ผิด) เพื่อทำซูเฟล่แพนเค้กแบบที่ตั้งใจไว้ให้ได้ และในเดือนนี้ผมได้...

- ได้ค้นพบความลับของอายุของไข่ขาวโดยบังเอิญ และเทคนิคในการตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีแบบมือถือเพื่อให้ได้เมอแรงค์ที่มีลักษณะดีที่สุด

- ปรับสูตรขนม ที่ให้รสชาติอร่อย เนื้อสัมผัสเหมือนที่เคยได้ทานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

- คิดค้นและปรับสูตรนามะครีม ที่เข้ากันอย่างพอเหมาะพอดีกับรสชาติของซูเฟล่แพนเค้ก

- เปลี่ยนกระทะทอดซูเฟล่แพนเค้กตัวใหม่

- หาเวลาและอุณหภูมิในการทอดซูเฟล่แพนเค้กเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่อร่อยที่สุด

- หาขนาดของฝาครอบแบบต่างๆ เพื่ออบแพนเค้กให้ได้เนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด

ต้องยอมรับว่าในเดือนนี้เป็นเดือนที่ทำงานหนักมาก แต่ก็รู้สึกดีมากๆ เช่นกัน ที่ได้เห็นผลลัพธ์จากความทุ่มเทที่ผ่านมาออกมาในทางที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ผมอาศัยความรู้จากในอินเทอร์เน็ต จากหนังสือเบเกอรี่ ผ่านการทดสอบด้วยกระบวนการทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นลำดับขั้นตอน

หลังจากผ่านการลองผิดลองถูก

ทำซูเฟล่แพนเค้ก ไป 200+ กว่าครั้ง

หมกหมุ่นอยู่กับมันเป็นเวลา 500+ กว่าชั่วโมง

จากคนที่ไม่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับเบเกอรี่และแพนเค้กเลย(นอกจากจะเคยทอดแพนเค้ก ครั้งสุดท้ายเมื่อตอน 10 ขวบ)

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!! นี่แหละซูเฟล่แพนเค้กที่ผมต้องการ!!

ซูเฟล่แพนเค้กที่ผมตั้งตารอคอยมาตลอด 2 ปีกับ 4 เดือน ได้คลอดออกมาอย่างที่ผมได้ตั้งใจไว้ซะที

ทุกวันนี้...ผมสามารถทำซูเฟล่แพนเค้กที่แสนอร่อย ทานได้ทุกวัน (จริงๆ ช่วง 4 เดือนก่อนก็ทานทุกวันแหละครับ แต่มันไม่อร่อยอย่างแรง ผมเลยขอไม่นับ) และได้โบนัสเป็นของแถมมาอีก 3 อย่างคือ

1. ผมมีรายได้จากการออกบูทขายซูเฟล่แพนเค้ก ซึ่งกำไรจากการขาย สามารถคืนทุนได้ทันทีภายใน 10 วัน หลังจากที่ออกบูทขายในครั้งแรกนี้

2. ผมมีแหล่งรายได้แหล่งใหม่ ที่ได้จากการส่งมอบซูเฟล่แพนเค้กที่แสนอร่อย ตามที่ได้ตั้งใจไว้

3. น้ำหนักตัวผมเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยแค่ 10 กิโลกรัม...เอง 🙈

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของผม…

ผมต้องขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่เชฟ ไม่ใช่ครู

ผมเป็นเพียงแค่คนที่รักในรสชาติและเนื้อสัมผัสของซูเฟล่แพนเค้กเท่านั้น และคุณก็สามารถทำซูเฟล่แพนเค้กแบบผมได้

ถ้าคุณได้อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว

ผมอยากขอแสดงความขอบคุณ

และอยากจะบอกว่า...

คุณมาถูกทางแล้วครับ 😚

เพราะหนังสือเล่มนี้คือ เส้นทางลัด ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้อง เสียเวลาลองผิดลองถูก กับมัน ถึง 4 เดือนแบบผม (แถมไม่ได้การัณตีด้วยว่าถ้าทำเองจะสำเร็จหรือเปล่า…)

คุณจะไม่ต้องเสียเงินลองซื้อวัตถุดิบยี่ห้อต่างๆ มาทำแพนเค้กแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ต้อง ลองผิดลองถูก กับสูตรบนยูทูปจากหลากหลายเชฟให้ปวดหัว จนน่าหงุดหงิด

ขอเพียงแค่ต่อจากนี้…

คุณต้องอาศัยเครื่องมือ วัตถุดิบ เทคนิค และการฝึกฝนจากนี้ อีกนิดหน่อยเท่านั้น

เพียงเท่านี้...

ขนมซูเฟล่แพนเค้กนุ่มๆ ฟูๆ ก็พร้อมจะวางอยู่ตรงหน้าคุณแล้วครับ 😁